หน้าเว็บ

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคปรับแผนลงทุน รับดอกเบี้ยขาลง

ใน ช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง พูดง่ายๆก็คือฝากเงินในธนาคารแล้วได้ดอกเบี้ยน้อยลงเรื่อยๆ จนแทบไม่ออกดอกออกผลผู้ที่จะยิ้มแก้มปริก็เห็นจะเป็นคนที่กำลังมีแผนขยาย ธุรกิจหรือผู้ที่กำลังผ่อนบ้านเพราะหากคิดขยายธุรกิจหรือซื้อบ้านก็จะได้สิน เชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกส่วนใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่แล้วก็ทำเรื่องรี ไฟแนนซ์ให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงได้อีกส่วนผู้ที่ยิ้มไม่ค่อยจะออกก็คงจะเป็น กลุ่มผู้ออมและนักลงทุนเพราะได้รับผลตอบแทนน้อยลงเรื่อยๆ จนแพ้เงินเฟ้อเสียราบคราบดังนั้นเราจึงควรปรับแผนการลงทุนเพื่อให้พร้อมรับ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเรื่อยๆ ครับควรทำอะไรบ้าง วันนี้ผมมีเทคนิคมาบอกเล่าครับ
ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาวมากขึ้น เช่น พันธบัตรและหุ้นกู้จะช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นโดยควร เลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่น่าลงทุน หรือ Investment Grade ในระดับBBB ขึ้น ไป แต่ถ้าหากไม่สนใจพันธบัตรหรือหุ้นกู้ก็ขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้แบบครบกำหนด อายุโครงการ ระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพราะเมื่อเทียบแล้วให้ผลตอบแทนสูงกว่าการออมเงินในบัญชีฝากประจำ ที่มีกำหนดอายุเท่ากันอีกทั้งผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนตราสารหนี้ไม่เสียภาษี ครับ
อย่าง ไรก็ตามเราควรยังต้องมีการลงทุนระยะสั้นๆ เช่น บัญชีออมทรัพย์หรือกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุน้อยกว่า 1 ปี อยู่นะครับทั้งนี้ก็เพื่อให้มีสภาพคล่อง โดยควรมีเงินออมสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้เท่ากับ 3-6เท่าของรายจ่ายรายเดือนครับ
ออมเงินในเงินฝากปลอดภาษีที่มีอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่เหมาะ สำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินแบบรายเดือนซึ่งผลตอบแทนจากการออมนี้ไม่ต้องเสีย ภาษี โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องออมเป็นจำนวนเท่าๆกันทุกเดือนเป็นระยะเวลาขั้นต่ำ 24 เดือน ซึ่งในช่วงที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นขาลงการออมในรูปแบบนี้จะช่วยล็อคอัตรา ดอกเบี้ยไว้ไม่ให้ลดลงครับ โดยสามารถเลือกออมแบบนี้ได้ในรูปแบบของบัญชีฝากประจำนั่นเองครับแต่ต้องเป็น บัญชีฝากประจำที่มีกำหนดอายุตั้งแต่ 24 เดือนขึ้นไปเท่านั้นนะครับหากต่ำกว่านั้น ผลตอบแทนที่ได้จะต้องโดนหักภาษีครับ
ลงทุนในหุ้นสามัญมากขึ้น ในมุมของนักลงทุนในกรณีที่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลงทำให้การลงทุนในหุ้นมีความน่า สนใจมากขึ้นเพราะผู้ที่ลงทุนในหุ้นโดยการกู้เงินจากบริษัทหลักทรัพย์ (Margin) จะ ทำให้มีต้นทุนในการกู้ที่ต่ำลงและในแง่ของบริษัทจดทะเบียน หากดอกเบี้ยปรับตัวลดลงจะช่วยให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายของเงินกู้ที่มีอยู่กับ สถาบันการเงินลดน้อยลงซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรมากขึ้นและเป็นผลบวกกับ ราคาหุ้นในระยะยาวทั้งนี้ต้องขอหมายเหตุไว้ ณ จุดนี้สักนิดว่า ความเป็นไปของตลาดหุ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย เพียงอย่างเดียวนะครับมันเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของทั้งไทยและ เศรษฐกิจโลกเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ภาพรวมของอุตสาหกรรมและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน เป็นต้น ดังนั้นหากตัดสินใจจะเล่นหุ้นแนะนำว่าให้ดูหลายๆ องค์ประกอบรวมกันหรือปรึกษาผู้รู้ก่อนตัดสินใจครับ
ทั้ง นี้จะเลือกลงทุนไม่ว่าจะรูปแบบใดอย่างไรก็ควรเลือกลงทุนให้เหมาะกับระดับ ความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้นะครับและควรศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อน เสมอเพื่อให้การลงุทนมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น